ข้อมูล eBook
ชื่อ: คิด ปีที่ 2 ฉบับที่ 12 กัยายน 2554
หมวดหลัก: -สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
คงเหลือ: 9999
เนื้อหา
สวรรค์ของนักลงทุน
Who lives see much. Who travels see more.
สุภาษิตอาหรับ
ในเวลาที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงบีบคั้นจากภาวะเงินเฟ้อนั้น เป็นธรรมดาที่นักลงทุนมักจะมองหาลู่ทางการต่อเติมเม็ดเงินหรือสินทรัพย์ด้วยวิธีอื่นเสมอ นอกเหนือจากการตั้งความหวังในอัตราดอกเบี้ยเงินออมของธนาคาร ซึ่งมักจะเป็นไปในรูปแบบของการขยับขยายเงินฝากสู่ตลาดหุ้น พันธบัตรรัฐบาล การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การมองหาลู่ทางลงทุนทำธุรกิจใหม่ๆ หรือแม้แต่การเก็งกำไรจากราคาทองคำที่กำลังเป็นที่นิยม
แต่บางทีเส้นทางการลงทุนเพื่อความมั่นคงของชีวิตก็มีความละเมียดมากกว่านั้น
ความสุขอันเกิดจากการท่องเที่ยวถือเป็นการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะทุกครั้งของการเดินทาง คนเรามักจะเติมเต็มตัวเองด้วยข้อมูลที่อัดแน่นทั้งสถานที่กินและเที่ยว การคำนวณสกุลเงินหน้าตาไม่คุ้นเคย การสื่อสารด้วยภาษาต่างถิ่น รูปแบบสถาปัตยกรรมที่น่าพิศวง ไปจนถึงการช้อปปิ้งที่ต้องต่อรองกัน เรื่องราวทั้งหมดนี้ คือคลังข้อมูลขนาดย่อมที่ค่อยๆ สั่งสมเป็นความรู้และความเข้าใจต่อวิถีชีวิตของผู้คนจากที่อื่นๆ ความรู้จากประสบการณ์การเดินทางนี้ยังขยายความได้ไม่รู้จบ เพราะยิ่งช่างสังเกตก็ยิ่งเพิ่มพูน ยิ่งเปิดสายตาให้กว้างก็ยิ่งเปิดมุมมองให้แหลมคม และมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า หลายครั้งหลายหนที่โลกได้ร่วมชื่นชมผลงานอันล้ำเลิศจากนักคิดหรือศิลปินที่ล้วนได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางของพวกเขานั่นเอง
ทุกวันนี้ นักเดินทางได้วิวัฒนาการความรู้สำหรับการดำรงชีวิตในสถานที่ต่างถิ่น จนงอกเงยเป็นผลลัพธ์ที่หลากหลายทั้งในมิติทางธุรกิจและการสร้างคุณค่าทางจิตใจ องค์การการท่องเที่ยวโลก (United Nations World Tourism Organization : UNWTO) คาดการณ์ว่า ในปี 2020 นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ มากถึง 1,600 ล้านคน และคาดว่าเฉพาะในกลุ่มอาเซียน จะมีจำนวนประมาณ 160-200 ล้านคน โดยในปี 2015 ก็คาดว่าจะมียอดนักเดินทางแล้วกว่า 120 ล้านคนซึ่งจากตัวเลขที่ปรากฏนี้ จึงกลายเป็นโอกาสของผู้ที่เห็นจุดหมายของการเดินทางทั้งทางธุรกิจ และความรื่นรมย์ของการท่องเที่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย
และเมื่อวิธีที่จะเรียนรู้ถึงแก่นแท้ของสถานที่พิเศษ คือการเดินทางไป
สวรรค์ของนักลงทุน
Who lives see much. Who travels see more.
สุภาษิตอาหรับ
ในเวลาที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงบีบคั้นจากภาวะเงินเฟ้อนั้น เป็นธรรมดาที่นักลงทุนมักจะมองหาลู่ทางการต่อเติมเม็ดเงินหรือสินทรัพย์ด้วยวิธีอื่นเสมอ นอกเหนือจากการตั้งความหวังในอัตราดอกเบี้ยเงินออมของธนาคาร ซึ่งมักจะเป็นไปในรูปแบบของการขยับขยายเงินฝากสู่ตลาดหุ้น พันธบัตรรัฐบาล การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การมองหาลู่ทางลงทุนทำธุรกิจใหม่ๆ หรือแม้แต่การเก็งกำไรจากราคาทองคำที่กำลังเป็นที่นิยม
แต่บางทีเส้นทางการลงทุนเพื่อความมั่นคงของชีวิตก็มีความละเมียดมากกว่านั้น
ความสุขอันเกิดจากการท่องเที่ยวถือเป็นการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะทุกครั้งของการเดินทาง คนเรามักจะเติมเต็มตัวเองด้วยข้อมูลที่อัดแน่นทั้งสถานที่กินและเที่ยว การคำนวณสกุลเงินหน้าตาไม่คุ้นเคย การสื่อสารด้วยภาษาต่างถิ่น รูปแบบสถาปัตยกรรมที่น่าพิศวง ไปจนถึงการช้อปปิ้งที่ต้องต่อรองกัน เรื่องราวทั้งหมดนี้ คือคลังข้อมูลขนาดย่อมที่ค่อยๆ สั่งสมเป็นความรู้และความเข้าใจต่อวิถีชีวิตของผู้คนจากที่อื่นๆ ความรู้จากประสบการณ์การเดินทางนี้ยังขยายความได้ไม่รู้จบ เพราะยิ่งช่างสังเกตก็ยิ่งเพิ่มพูน ยิ่งเปิดสายตาให้กว้างก็ยิ่งเปิดมุมมองให้แหลมคม และมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า หลายครั้งหลายหนที่โลกได้ร่วมชื่นชมผลงานอันล้ำเลิศจากนักคิดหรือศิลปินที่ล้วนได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางของพวกเขานั่นเอง
ทุกวันนี้ นักเดินทางได้วิวัฒนาการความรู้สำหรับการดำรงชีวิตในสถานที่ต่างถิ่น จนงอกเงยเป็นผลลัพธ์ที่หลากหลายทั้งในมิติทางธุรกิจและการสร้างคุณค่าทางจิตใจ องค์การการท่องเที่ยวโลก (United Nations World Tourism Organization : UNWTO) คาดการณ์ว่า ในปี 2020 นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ มากถึง 1,600 ล้านคน และคาดว่าเฉพาะในกลุ่มอาเซียน จะมีจำนวนประมาณ 160-200 ล้านคน โดยในปี 2015 ก็คาดว่าจะมียอดนักเดินทางแล้วกว่า 120 ล้านคนซึ่งจากตัวเลขที่ปรากฏนี้ จึงกลายเป็นโอกาสของผู้ที่เห็นจุดหมายของการเดินทางทั้งทางธุรกิจ และความรื่นรมย์ของการท่องเที่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย
และเมื่อวิธีที่จะเรียนรู้ถึงแก่นแท้ของสถานที่พิเศษ คือการเดินทางไป