ข้อมูล eBook
ชื่อ: คิด ปีที่ 6 ฉบับที่ 4 มกราคม 2558
หมวดหลัก: -สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
คงเหลือ: 9999
เนื้อหา
Never Give Up, Never Give In
คำภาวนาใดๆ อาจไม่ใช่เครื่องมือต่อรองกับความเป็นจริงของชีวิตที่ว่า โลกถูกรุมเร้าด้วยความทุกข์นานัปการ จากภัยที่มนุษย์เรากระทำต่อกัน มนุษย์กระทำต่อธรรมชาติ และย้อนกลับมาที่ธรรมชาติกระทำต่อเรา และบนความสั่นไหวที่สั่นคลอนการดำเนินชีวิต ธรรมชาติก็ไม่ได้ท้าทายเพียงความแข็งแกร่งของมนุษญ์จากภัยพิบัติทางกายภาพ แต่ยังได้ผลิตภัยทางชีวภาพที่รุนแรงและให้ผลทำลายล้างรวดเร็ว ทิ้งความบอบช้ำจากความหวาดกลัวในวงกว้างไว้อีกด้วย การผลัดกันแพ้ชนะระหว่างโรคภัยที่แพร่ระบาดกับสติปัญญาของมนุษย์จึงยืดเยื้อและยาวนาน
ในปี 2013 เชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola) ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 7,900 คน และแพร่กระจายอย่างมากทั้งในไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ทั้งยังพบผู้ติดเชื้อในไนจีเรีย มาลี สเปน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปราว 10 ปีก่อน เชื้อไวรัสโรคซาร์ส (SARS) ที่มีต้นตอจากมณฑลกวางตุ้งของจีนได้แพร่ระบาดไปกว่า 24 ประเทศ ทั้งในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และยุโรป ในครั้งนั้น แทบทุกประเทศต้องปิดกั้นพรมแดน ตรวจตราผู้เดินทางเข้าออกอย่างเข้มงวด เพราะเพียงแค่หายใจอากาศร่วมกัน ก็อาจกลายเป็นผู้ติดเชื้อได้ทันที ดังนั้น เมื่อความกลัวครอบงำการใช้ชีวิตปกติ ธุรกิจบริการและท่องเที่ยวจึงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สายการบินต่างว่างเปล่า โรงแรมที่พักไร้นักท่องเที่ยว กระทั่งโรงภาพยนตร์ก็ไร้ผู้คน และเป็นเวลาเกือบ 2 ปีหลังเกิดการระบาดในปี 2004 วิกฤตโรคซาร์สก็ควบคุมได้ด้วยความล้ำเลิศของวิทยาการทางการแพทย์ที่เข้ามาแทนที่
Never Give Up, Never Give In
คำภาวนาใดๆ อาจไม่ใช่เครื่องมือต่อรองกับความเป็นจริงของชีวิตที่ว่า โลกถูกรุมเร้าด้วยความทุกข์นานัปการ จากภัยที่มนุษย์เรากระทำต่อกัน มนุษย์กระทำต่อธรรมชาติ และย้อนกลับมาที่ธรรมชาติกระทำต่อเรา และบนความสั่นไหวที่สั่นคลอนการดำเนินชีวิต ธรรมชาติก็ไม่ได้ท้าทายเพียงความแข็งแกร่งของมนุษญ์จากภัยพิบัติทางกายภาพ แต่ยังได้ผลิตภัยทางชีวภาพที่รุนแรงและให้ผลทำลายล้างรวดเร็ว ทิ้งความบอบช้ำจากความหวาดกลัวในวงกว้างไว้อีกด้วย การผลัดกันแพ้ชนะระหว่างโรคภัยที่แพร่ระบาดกับสติปัญญาของมนุษย์จึงยืดเยื้อและยาวนาน
ในปี 2013 เชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola) ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 7,900 คน และแพร่กระจายอย่างมากทั้งในไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ทั้งยังพบผู้ติดเชื้อในไนจีเรีย มาลี สเปน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปราว 10 ปีก่อน เชื้อไวรัสโรคซาร์ส (SARS) ที่มีต้นตอจากมณฑลกวางตุ้งของจีนได้แพร่ระบาดไปกว่า 24 ประเทศ ทั้งในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และยุโรป ในครั้งนั้น แทบทุกประเทศต้องปิดกั้นพรมแดน ตรวจตราผู้เดินทางเข้าออกอย่างเข้มงวด เพราะเพียงแค่หายใจอากาศร่วมกัน ก็อาจกลายเป็นผู้ติดเชื้อได้ทันที ดังนั้น เมื่อความกลัวครอบงำการใช้ชีวิตปกติ ธุรกิจบริการและท่องเที่ยวจึงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สายการบินต่างว่างเปล่า โรงแรมที่พักไร้นักท่องเที่ยว กระทั่งโรงภาพยนตร์ก็ไร้ผู้คน และเป็นเวลาเกือบ 2 ปีหลังเกิดการระบาดในปี 2004 วิกฤตโรคซาร์สก็ควบคุมได้ด้วยความล้ำเลิศของวิทยาการทางการแพทย์ที่เข้ามาแทนที่